MMORPG: Rebirth of the Legendary Guardian Ch1
Chapter1 - Together in death
วันที่ 8 มีนาคม 2039
ในห้องสุดหรูชั้น19ของโรงแรมเทียนหลุนพาวิเรี่ยน
ถึงแม้ว่าจะความปรารถนาจะมอดดับลงไปแล้ว แต่ยังคงมีความรู้สึกคลุมเครือที่ค้างคาอยู่
จางหยางนั่งอยู่บนเตียง , ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าและไม่มีหมอนสักใบบนเตียงของเขา
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
เขาเข้าร่วม...ไม่สิ...ต้องพูดว่า
เขามาที่นี่เพื่อที่จะขัดขวางการแต่งงานของคนรัก
มีเพียงเหตุผลเดียว...นั่นคือ
เขาไม่ใช่เจ้าบ่าว!
เขาและหลินยู่เจอกันในเกมออนไลน์God’s Miracle
ในตอนแรกทั้งสองเป็นศัตรูกัน
พวกเขาได้รู้จักกันจนพัฒนาความรู้สึกที่มีให้กัน
แม้ว่าครอบครัวของหลินยู่เบื้องหลังจะแตกต่างจากครอบครัวของเขา
ครอบครัวของเธอครอบครองมูลค่าทรัพย์สินมากกว่าพันล้าน
โดยปกติแล้ว พวกนั้นคงไม่มอบลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองให้เขาหรอก
ถึงแม้ว่าจางหยางจะไม่ได้จนหรืออนาถไม่มีใคร เขามีบ้านที่หรูหรา มีรถราคาแพง
และเงินหลักแสนในบัญชีธนาคาร ในสายตาของผู้หญิงทั่วไป เห็นว่าเขาเป็นชายโสดที่มีคุณสมบัติเกินพอ ถึงอย่างนั้น เมื่อเทียบกับตระกูลหลิน ก็ยังคงมีความต่างชั้นที่ห่างเกินไปนั่นแหล่ะ
ด้วยความพยายามอันไร้ค่าของเขา ผู้อาวุโสตระกูลหลินปฏิบัติต่อเขาด้วยความเย็นชา พวกเขาแทบจะไล่จางหยางออกจากบ้านด้วยซ้ำ สิ่งที่หลินยู่ทำได้มีเพียงการหลั่งน้ำตาให้กับเขา เธอไม่ได้เห็นด้วยกับการหนีการแต่งงานเพื่อเขา สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงการยอมรับคำขออย่างสิ้นหวัง ซึ่งคือการที่ไม่สามารถพบกับจางหยางได้อีก
จางหยางรู้ว่าหลินยู่เป็นผู้หญิงที่เชื่อฟังผู้อาวุโสโดยไม่ปริปากบ่น แม่ของเธอคุกคามการใช้ชีวิตของเธอ เพื่อบังคับให้หลินยู่เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ นั่นเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วสำหรับการที่หลินยู่ยอมรับการแต่งงานระหว่าง ผู้ร่ำรวยเทียบเคียงกันได้อย่างลูกชายคนเดียวของตระกูลหลิว
หลิวเว่ย! ตามจริงแล้ว การแต่งงานควรจัดขึ้นตั้งแต่สามถึงสี่ปีก่อน ที่มันล่าช้าออกไปเป็นเพราะการดิ้นรนไม่ยอมแพ้ของหลินยู่ แต่ตอนนี้ มันชัดเจนแล้วว่าการขัดขืนของเธอได้มาถึงจุดสิ้นสุด
จางหยางเดินออกมาอย่างเงียบๆ จากงานแต่งของหลินยู่และกลับไปที่ห้องของตัวเอง หัวใจของเขาตกอยู่ในความสิ้นหวังสุดขีดกับคนที่เขารัก กลับกลายเป็นภรรยาของคนอื่น เขาต้องดื่มอย่างหนักให้เมาที่สุดก่อนจะนอนหลับไป ในระหว่างนั้นเขาได้รับโทรศัพท์ จำไม่ว่าพูดอะไรออกไปบ้างแต่ไม่นานหลังจากนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับนอนลงบนเตียงของเขา
จางหยางเมามากอย่างไม่น่าเชื่อว่าเขาได้ "ทำ" เมื่อทั้งสองได้กอดรัดกัน จนสถานการณ์เลยเถิด จางหยางก็สร่างเมาและตระหนักได้ว่าเขารู้จักผู้หญิงคนที่เข้ามาพัวพันด้วย
เป็นคนที่สอนภาษาจีนให้เขาที่มหาลัย มิสหยูลี่
ในที่สุดหยูลี่ก็จำจางหยางได้เช่นกัน พวกเขาจึงหยุด "ช่วงเวลานั้น" เอาไว้ พวกเขาทั้งสองรู้สึกประหม่า แต่เทียบกันกับเขาแล้วหยูลี่นั้นอายกว่ามาก เธอเป็นพนักงานโรงแรมแต่ดันมาทำเรื่องไร้ยางอายกับนักเรียนเก่า นั่นทำให้เธอรู้สึกอับอาย ส่งผลให้เธอเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้เก็บเงิน
กับรอยที่โดนประทับเอาไว้บนแผ่นอกตอนหยูลี่จูบเขา
จางหยางสะบัดหัวไล่ความคิดแบบone night standให้ออกจากใจไป
แต่ทำไมหยูลี่ถึงล้มเลิกเป็นครูแล้วกลายมาเป็นพนักงานบริการที่โรงแรม?
เป็นไปได้ว่าบางทีอาชีพครูอาจจะได้เงินไม่พอ
หรือบางทีอาจจะโชคร้ายเรื่องเพื่อนแล้วก็ถูกกดดันจากแฟนหรือสามีให้ทำแบบนี้หรือบางทีอาจจะต้องการเงินเพื่อไปรักษาครอบครัว...
จางหยางอดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องของหยูลี่เพราะตอนนี้ ระหว่างที่เขามีสติ เขาก็ถูกเล่นงานด้วยความเจ็บปวดที่หัวใจ ในใจของเขาคิดถึงแต่เพียงคนเดียวเท่านั้น หลินยู่
'ปัง!'
เสียงประตูดังขึ้นพร้อมกับชายร่างกำยำสองคนในชุดสูทกับแว่นกันแดดโผล่พรวดเข้ามา
แสดงสีหน้าที่เย็นชากับร่างกายที่มีเจตนาอาฆาตอย่างรุนแรง
ด้านหลังของพวกเขา ด้วยความสูงและขนาดของพวกนั้น มีผู้ชายที่ใส่สูทสีขาวควบด้วยแว่นกรอบทอง ทั้งหล่อและยังหนุ่ม ประดับด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเป็นต้นแบบของสุภาพบุรุษตัวเป็นๆ
“หลิวเว่ย!” จางหยางนึกขึ้นได้ในทันทีว่าเป็นผู้ชายคนนี้เขาจึงกัดฟันกรอด
หนึ่งในชายร่างกำยำคว้าเก้าอี้มาวางไว้และหลิวเว่ยก็นั่งลงทันที เขาไขว่ห้างก่อนพูดขึ้น
“นายคงสงสัยว่าทำไม ฉันถึงทิ้งภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่เอาไว้แล้วมาที่นี่ตอนกลางดึก”
“หึ ประสาท!” จางฉางพูดอย่างเย็นชาในขณะที่จ้องมองไปยังอริ
ทั้งเขาและหลินยู่รู้ว่าหลิวเว่ยยืนกรานจะแต่งงานกับหลินยู่ แม้ว่าจะจะไม่มีความรู้สึกต่อเธอเลย นั่นเพราะทรัพย์สินของตระกูลหลิน ทั้งครอบครัวหลินและครอบครัวหลิวเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจระดับโลก ถ้าพวกเขาได้เป็นหนึ่งเดียวด้วยการแต่งงานล่ะก็คงได้ปกครองตลาดที่ใหญ่ที่สุดด้วยกัน
หลิวเว่ยหัวเราะขึ้น แต่ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงถึงอารมณ์ขบขันแบบนั้นเลย
เขาพูดขึ้นว่า”ผู้หญิงที่จะมาเป็นของฉันต้องไม่มีชายอื่นในใจ และถ้าเป็นแบบนั้น ฉันอนุญาตเพียงแค่ผู้ชายที่ตายแล้ว! เข้าใจรึยังจางหยาง”
จางหยางตะลึงไปชั่วครู่เขารู้ว่ามีเพียงลูกชายของตระกูลหลิวที่จะทำการอะไรอุกอาจเช่นนี้ แต่นี่คือโรงแรมนะเป็นที่สาธารณะ มันก็ออกจะเกินจินตนาการไปหน่อย
“ที่นี่เราไม่ต้องการเซอไพท์ นี่คือที่ของJi ภายใต้อิทธิพลของครอบครัวฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะทำอะไรเลวร้ายแค่ไหนก็มีคนมาแก้ต่างให้เสมอ” หลิวเว่ยพูดต่อไปทั้งเสียงหัวเราะที่เยือกเย็น
“แล้วก็ไอ้บ้าที่มันทำให้การแต่งงานล่าช้ามาตั้ง4ปีก็คือแกไง! หึ หลังจากที่เสร็จธุระจากแกแล้วฉันจะกลับไปดูแลเธออย่างดีเลยล่ะ”
จางหยางได้เข้าสู่ความเดือดดาลเขาตีลังกาจากเตียงลงที่ปลายเท้าและตะโกนว่า
“ถ้ากล้าแตะต้องแม้แต่ปลายผมของเธอล่ะก็ ฉันจะฆ่าแก!”
“ฮ่าๆไม่ใช่แค่จะแตะอย่างเดียวนะ ฉันจะทำให้เธอแปดเปื้อนไปด้วยความชั่วร้าย! จริงๆแล้วนังนั่นนอนกับนายตั้งหลายครั้งนี่ แล้วก็ยังเป็นคนที่ทำให้ฉันกลายเป็นคนเลวด้วย!” หน้าตาที่หล่อเหลาของ หลิวเว่ยจางหายไป
“ไอ้สารเลว!” จางหยางคำรามและพุ่งไปทางหลิวเว่ย
หลิวเว่ยเย้ยหยันและสั่งชายร่างกำยำสองคน “โยนมันออกนอกระเบียง!”
“รับทราบ” สิ้นคำตอบรับจากชายคนนั้นในทันใด พวกเขาก็พุ่งเข้าใส่
หลิวเว่ย มีความมั่นใจในบอดี้การ์ดจึงพูดขึ้นอย่างผ่อนคลายว่า "ผู้ชายคนหนึ่งอกหักจากรักสาว คิดสั้นโดดตึกฆ่าตัวตาย คิดว่าไงพาดหัวข่าวของหนังสือพิมวันนี้ ชักสงสัยแล้วว่าหน้าของนังนั่นจะเป็นยังไง คงจะสนุกมากแน่ๆเลย!"
ถึงอย่างนั้น จางหยาไม่ได้แสดงสีหน้าเกรงกลัวออกมา เขาสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็กก็เลยกระด้างตั้งแต่นั้น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครใส่ใจว่าเขาจะไปมีเรื่องกับใคร จนกลายมาเป็นหนึ่งในอันตพาลของเขต ต่อจากนั้นก็เริ่มเพลาลงหลังจากเข้ามหาลัยแล้ว เขาหยุดการทะเลาะวิวาทและเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้แถมยังมีทักษะที่ดีอีกด้วย
เขาเกิดมาด้วยร่างกายที่แข็งแรงคล่องแคล่ว จากที่เริ่มฝึกมาแค่สองปี
ก็พูดได้ว่าชนะเป็นอันดับที่9จากการแข่งขัน National Martial Arts Competition’s Champion’s
ผ่านมาปีกว่าก็ไม่ได้หยุดฝึกซ้อมจนหาตัวจับได้ยาก ทั้งสองคนนั้นต้องมีทักษะต่อสู้แน่นอนจึงได้มาเป็นบอดี้การ์ดของหลิวเว่ย แต่ในสายตาของจางหยางยังคงไม่เห็นความสำคัญเลย
'ปังๆๆๆ!'
จางหยางกำหมัดด้วยความรวดเร็วราวสาบฟ้าแลบ เคลื่อนที่ไปโดยรอบ
ขาของเขาขยับราวกับงู ทวงท่าที่เรียกว่า
‘False Steps Chaos Punch’.
มันล้มพวกนั้นได้โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ตอบโต้
หลิวเว่ยทั้งตกใจทั้งเดือดดาล เขาไม่เคยรู้เลยว่าจางหยางจะมีทักษะที่น่ากลัวขนาดนี้ ปราศจากความคิดใดๆชายหนุ่มดึงปืนขึ้นมาลั่นไกใส่จางหยางทันที จางหยางไม่รู้สึกประหลาดใจเรื่องตระกูลหลิวอันฉาวโฉ่ที่จะพกปืนมาแบบนี้ แทนที่เขาจะตกใจว่าทำไมหลิวเว่ยจึงลั่นไกในพื้นที่สาธารณะ!
ในขณะนั้น ดวงตาของเขาพุ่งตรงไปที่ปากกระบอกปืนของหลิวเว่ย ชายหนุ่มปัดแขนของเขาโดยสัญชาติญาณและต่อยเข้าที่หน้าบอดี้การ์ดคนที่กำลังตื่นตระหนกข้างหน้า มากันเอาไว้
'ปัง!'
เสียงปืนเบาลงตามระยะทางที่มากขึ้น ร่องรอยเลือดสดใหม่เกิดขึ้นภายในเสื้อของบอดี้การ์ด ชายหนุ่มคนนั้นล้มลงพื้นก่อนที่เขาจะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หลิวเว่ยไม่ได้หยุดแค่นั้นแม้ว่าจะอึ้งไปชั่วครู่ เขาหันปืนกลับและเล็งไปที่จางหยาง
จางหยางผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวยามทะเลาะวิวาทกับชายใด เขายกตัวของผู้ชายคนนั้นมาเป็นโล่และพุ่งเข้าใส่หลิวเว่ย เขามองเห็นหลิวเว่ยเล็งตรงมาที่ตนจึงตกใจ เริ่มเหงื่อตกกรีดร้องว่า
"ได้โปรด นายน้อยหลิว อย่ายิง อย่ายิ..."
'ปังๆๆๆๆ!'
ความเห็นแก่ตัวและบ้าระห่ำ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่หลิวเว่ยจะทนฟังเสียงลูกน้องของเขาร้อง เขาก็ลั่นไกปืนรัวๆหลังจากยิงนัดที่6ทำให้กระสุนของเขาว่างเปล่า
ภายในม่านควัน สามารถเห็นบาดแผลจากการถูกยิงได้ที่ท้องอกและหัวของบอดี้การ์ดคนนั้น
เขาตายโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จางหยางดันร่างนั้นออกห่างและพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อจะเตะหลิวเว่ยที่กำลังบรรจุกระสุนปืน ทันทีทันใด จางหยางปรากฏตัวขึ้นข้างหลังร่างผู้ตาย
เขามีกำลังพอที่จะยกหมัดขึ้นต่อหน้าหลิวเว่ยเข้าอย่างจัง
หมัดนั้นทรงพลังส่งผลให้แว่นตากรอบทองหลุดกระเด็นไปไกล เลือดไหลนองเป็นสายซึมออกจากบริเวณรอยแผลสดใหม่ที่เขาได้รับ
จางหยางดึงหลิวเว่ยออกจากใต้ร่างของชายคนนั้นโดยไว แล้วตามด้วยหมัดต่อมา
"อ่ะ"
เขากรีดร้องออกมา หลิวเว่ยเป็นูกคุณหนูที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาแทบจะอดทนกับความเจ็บปวดไม่ได้เลย
ในสุดท้ายแม้ว่าเขาจะยังคงเป็นชายผู้อำมหิตเพียงใด ด้วยดวงตาที่เปลี่ยมไปด้วยความปวดร้าว เขาจ้องเขม่นจางหยางและโวยวายขึ้น
"แก ไอบ้า!"
"แกบังอาจชกฉัน!แกตาย! ฉันจะยังไม่ฆ่าแก ฉันจะให้แกพิการกแล้วก็โยนให้หมากิน!" ไม่มีใครเลยที่จะรองรับอารมของเขาได้ ภายในการยิงทั้งหมด7นัด อาจจะประสาทเสียไปแล้ว จางหยางเริ่มจะเดือดดาลเกินกว่าที่จะรับรู้อะไร
หลังจากฟังหลิวเว่ยยั่วยุ ความบ้าคลั่งของเขาก็ประทุขึ้นไปอีกจนส่งหมัดไปอีกครั้งเสียงดังตึง
ใบหน้าของหลิวเว่ยปกคลุมไปด้วยเลือดและเสียงร้องระงม เขาต่อยจนฟันหักถึง7-8ซี่
'นายน้อยหลิว นายน้อยหลิว!'
เสียงเด็กรับใช้ดังขึ้นที่ห้องโถงและยังมีบอดี้การ์ดร่างยักษ์ที่พุ่งเข้ามาในห้องนี้ ช่วงเอวนูนออกมา ชี้ให้เห็นว่าพวกนั้นพกอาวุธมาด้วย
หลิวเว่ยได้สติคืนมาจึงกรีดร้องเสียงสูง
"ฆ่ามัน!ฆ่ามัน!"
‘เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!’
บอดี้การ์ดคนที่ได้รับคำสั่งมาจึงพุ่งเข้าใส่จางหยาง บางคนชักมีดสั้นออกมา เลือดของจางหนางหยดลงที่บั้นเอว ถึงแม้เขาจะมีร่างเกาะป้องกันแต่ก็ยะงถูกยิงที่ช่วงท้องอยู่
เวลาเพียงไม่นานนัก เขารู้สึกว่าพละกำลังของตัวเองกำลังไหลออกอย่างช้าๆ ทัศนะวิสัยก็พร่าเลือน และรู้ตัวเองว่าอีกเดี๋บวก็คงจะหน้ามึดแน่ๆ ในสถานการแบบนี้ การมีสติอยู่กับตัวมันยาก ต้องรับมือกับผู้ชายร่างยักเหล่านี้อีก
จางหยางหันไปมองหลิวเว่ยที่กำลังพึมพำ
"ที่จริงฉันควรจะมีเมตตางั้นหรอ?"
เขาระเบิดหัวเราะออกมา จางหยางโฉบไปยังหลิวเว่ยและเบี่ยงตัวไปที่หน้าระเบียง
แรงเหวี่ยงตัวที่หยุดไม่อยู่ ทั้งสองร่างทะยานตัวสู่ฟากฟ้าก่อนจะล่วงลงจากชั้นที่19 ราวกับดาวตก
-----------------
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แปลจากนิยาย มาจากต้นฉลับภาษาจีน-อังกฤษ มาเป็นไทย ไม่ใช่แนววายแต่เห็นเพื่อนบอกว่าสนุกมากเลยลองแปล(ให้มันอ่าน)