Screen partner 1





ซูจื่ออี้รู้ว่างานนักแสดงของเขากำลังจะจบลง เขาเดบิ้วมาสิบกว่าปีแล้ว แต่เพียงแค่สามปีแรกเท่านั้นที่ดูดี
ตอนนั้นเขายังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลย พวกแมกกาซีดังๆก็มีแต่รูปของเขา ในวงการนี้เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงเลยทีเดียว
หลังจากพวกแมวมองมาเจอเข้า เขาไม่คิดมากเรื่องการเซ็นสัญญาจนกระทั้งได้มาเป็นดารา
ตอนแรกรายได้ก็ดีอยู่หรอก

เขาเล่นเป็นตัวประกอบในละครดราม่าทั่วไปแล้วก็พวกวาไรตี้โชว์
ถึงจะไม่สามารถไปถึงระดับAได้แต่การเป็นระดับBมันก็ไม่ได้แย่อะไร ซูจื่ออี้ร่ำรวยมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาชอบเสื้ิอผ้าทันสมัยและลองเก็บเงินเพื่อจะเปิดร้านในอนาคต

เขามีเพื่อนคนหนึ่งที่มีความคิดเดียวกันนี้ ทั้งสองคนเก็บเงินและยืมเงินจากธนาคาร
พวกเขาสามารถเช่าร้านค้าเล็กๆแถบตะวันออกของแถวนั้น เพื่อนของเขาบินไปเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นบ่อยครั้ง แถมนำเครื่องประดับที่ดูดีมีคุณภาพติดตัวกลับมาอีกด้วย

ซูจื่ออี้ก็ได้รีเควสไปที่เพื่อนที่เป็นบรรณาธิการแมกกาซีนที่ชอบ เขาถามเพื่อนเพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ร้านด้วยแมกกาซีนเหล่านั้น

ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้องจนกระทั่งวัน
เคราะห์กรรมมาถึงตอนที่เขาอยากจะเห็นร้านของตัวเอง น่าประหลาด เมื่อมาถึงร้านประตูก็ปิดสนิท
เขาเปิดประตูด้วยกุญแจสำรองและพบว่าภายในร้านว่างเปล่า ตอนแรกคิดว่ามีโจรเข้ามาขโมยของ และพึ่งรู้ว่าหลังจากพยายามติดต่อเพื่อนไปก็ไม่ติดเลยสักครั้ง

นี่เป็นช่วงมึดมนสุดๆของซูจื่ออี้ เขาต้องรับผิดชอบหนี้สินของตัวเองไปเต็มๆ ตำรวจก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ พวกรั้นก็แค่ตกใจ บัญชีทั้งหมดของตัวเองถูกแช่เอาไว้ มีเพียงพันหยวนในมือเท่านั้น อย่างไรก็ตามก็มีเพื่อนที่ดีๆช่วยกันรวบรวมเงินให้เขาพอมีชีวิตอยู่ต่อได้ แต่ก็ยังต้องการเงินมาจ่ายหนี้อยู่ดี

ซูจื่ออี้ไม่คิดเลยว่านั่นคือจุดเริ่มต้นสำหรับจุดจบ เพื่อนที่ใส่หน้ากากเขาหาเขาก็เหมือนกัน ความจริงแล้วภายในสกปรก

ไม่นานนี้สัญญาก็หมดอายุไปแถมผู้จ้างก็ไม่ต่อสัญญาอีกด้วย พวกเขาบรรลุเป้าหมายของสัญญาแล้วแล้วก็นั่งนิ่งๆไม่ทำอะไรต่อ หลังจากที่เขาทำตัวรีรอบางอย่าง 
เจ้าหน้าที่ก็ยื่นหนังสือสัญญาให้
"กลับไปเถอะ อ่านนี่ก่อนแล้วคิดดูอีกทีนะ ถ้าต้องการ ฉันสามารถช่วยเรื่องการตกลงสัญญากันได้ ฉันไม่บอกเรื่องนี้กับบริษัทหรอกหรือไม่ก็จะเอาไปทิ้งให้
ที่ทำก็เพราะเป็นเพื่อนของนายหรอกนะ" เมื่อซูจื่ออี้ได้ยินดังนั้นก็รูเลยว่าสัญญาอันนี้ไม่ได้ถูกต้องเสียทีเดียว

เขากลับบ้านมานั่งลงอ่านสัญญาอย่างละเอียด และอดจะหัวเราะอย่างขมขื่นไม่ได้ ก็มันคือสัญญาหนังเกย์นี่นา สำหรับหนังเกย์ญี่ปุ่นแล้ว ขึ้นชื่อว่ายิ่งใหญ่ส่งออกนอกอีกด้วย 

เป็นราคาเสนอที่น่าดึงดูดมาก ถึงจะเอาไปจ่ายหนี้แล้วก็ยังเหลือตังเก็บอีกนิดหน่อยด้วย ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องเซ็นสัญญาเล่นถึงสามเรื่อง ในสัญญากำหนดเอาไว้ชัดว่าต้องใช้บั้นท้ายในหนัง

ซูจื่ออี้มั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้ชายแท้ ก่อนหน้านี้ เขาก็มีแฟนสาวตั้งไม่รู้กี่คนมีประสบการบนเตียงมาเยอะแยะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงความตืืนเต้นเรื่องเพศเท่ากับผู้ชายอายุเท่าๆกันก็เถอะ ตอนที่อยากทำก็เพียงแค่ต้องการผู้หญิงตัวนิ่มๆไม่ใช่ผู้ชายมีดุ้นสักหน่อย

แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่เขาหวั่นไหวเป็นเพียงครั้งเดียวที่รู้สึกเพราะสถานการมันพาให้เขาค้นพบตัวเอง
หมิงปันเป็นเกย์ที่ดูดีมากๆ… แขนขายาวขาวและหน้าตาดี บุคลิกของเขาค่อนข้างจะเก็บเนื้อเก็บตัว การแหย่นิดหน่อยหน้าก็ขึ้นสีแล้ว

ตอนที่ซูจื่ออี้เห็นหมิงปันครั้งแรกเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่อยากจะเข้าไปคุยด้วย เขาจำได้ช่วงที่ไปเที่ยวกับหมิงปัน แค่สองคนไม่ได้ทำอะไรยอกจากคุยกับดูทีวี

ตอนนั้นหมิงพูดว่าซูพวกเราควรเปิดร้านด้วยกันนะพอพวกเรามีเงินพอจะได้ซื้อบ้านใกล้ๆกับร้านด้วยกัน จนถ้าอายุถึง40เมื่อไรไม่มีคนแต่งงานเราก็มาอยู่ด้วยกันได้
แต่ถึงอย่างนั้นตอนที่เขาคิดว่าเขาและหมิงกำลังจูบกัน

เขาก็ยังจินตนาการไม่ออก สุดท้ายแล้วหมิงก็ทิ้งเขาไว้ข้างหลังพร้อมกับหนี้สินอีกหนึ่งกอง จากนั้นมาซูจื่ออี้ก็เกลียดเกย์เข้าไส้ เขารู้สึกว่ามันส่งผลให้ ทั้งร่างกายและจิตใจ

รู้สึกโครตจะรังเกียจเกย์…