Screen Partner 2

http://mugengstudio.net/20130302.html

หลังจากที่สัญญาจบลงก็เริ่มหางานใหม่ ธนาคารเริ่มเรียกดอกเบี้ยจากเขา เขาต้องหางานประจำที่มั่นคงเพื่อจ่ายดอกทุกเดือน
มันก็ไม่ง่ายเลยแต่เขาไม่เคยทำงานอย่างอื่นหลังจากจบการศึกษา นอกจากงานด้านการบันเทิง ยิ่งคนมาสมัครมากๆทำให้เรซูเม่นี่ไร้ผล

งวดหน้าก็อีกประมาณสองอาทิตย์ถึงจะต้องจ่ายอีกครั้ง
ซูจื่ออี้พลิกสัญญา(หนังเกย์)ขึ้นมาดู
และเวลานั้นเสี่ยวจีก็โทรมาพอดี

"ไง คิดว่าไงบ้างล่ะ" ซูจื่ออี้ไม่ได้ตอบอะไร
หลังจากได้ทำงานกับเขามาหนึ่งปี ก็รู้ว่าเสี่ยวจีเป็นคนที่รักษาคำพูดมากๆ

"บริษัทใหญ่เชียวน้า มีค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อไม่ต้องไปกังวลอะไรเลย" เขาพูด

"รู้แล้วว่ามันเป็นหนังเกย์ แถมภาพสีเสียงยังชัดแจ๋ว" ซูจื่ออี้เย้ยหยัน

จะHDเกย์หรืออะไรก็ช่างแต่ก็ยังต้องใช้ด้านหลังอีกด้วยหรอ
แค่คิดว่ามีอะไรเสียบเข้ามาก็รู้สึกแปลกๆแล้ว มันทำให้เขารู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอ้วก

"นายเอาสคริปกับสัญญาไปดูอีกทีแล้วกัน ภายในสองสามวันนี้ฉันจะพานายไปหาผู้กำกับ ลองไปเทสดูที่นั่น แล้วก็ถ้าไม่ติดอะไรก็เซ็นสัญญาได้เลย"

"...เทสงั้นหรอ?"

"นอกจากนายก็มีอีกสามคนที่สมัครน่ะ" เขาอธิบาย

"พอเจอกันแล้วก็เริ่มเทสได้เลยเพื่อหาคนที่แมตกันที่สุด แต่ฉันก็ไม่คิดหรอกนะว่าจะเข้ากับความคิดของพวกญี่ปุ่นได้มั้ย เตรียมตัวเองดูแล้วกัน"

ซูจื่ออี้เข้าใจความหมายของเสี่ยวจีดี เขาได้แต่สบถอยู่ในใจ ตัวเขาไม่ได้คาดหวังว่าหนังเกย์จะเป็นที่นิยมเปิดเผยขนาดนั้น

"ฉันน่าจะให้รายชื่อนายไปดูก่อนนะ งั้นเดี๋ยวค่อยส่งไปให้แล้วกัน" เสี่ยวจีบอก

ซูจื่ออี้ ก็วางหูไปเงียบๆ ในใจของเขายุ่งเหยิงและรู้สึกหงุดหงิดมาก

เขาหยิบสคริปขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
พร้อมทั้งพยายามอ่านวนไปวนมาหลายรอบก็ยังไม่เข้าถึงบทสักที
แต่เพียงแค่คิดถึงเงินเท่านั้นที่เป็นแรงผลักดันตัวเขาจำให้ต้องอ่านมันเข้าไป

เรื่องนี้เป็นเรื่องของคู่รักเกย์ โดยการให้ผู้ชายสองคนพึงใจกันก่อนจะป้าบกัน
เนื้อเรื่องแบบนี้นี่แหล่ะที่ทำยอดขายถล่มทลายในญี่ปุ่น เป้าหมายไม่ใช่แค่เป็นเกย์เท่านั้นแต่ต้องโรแมนติกด้วย สำหรับพวกผู้หญิงวิตถารโดยเฉพาะเลย
เพราะแบบนั้นเลยเน้นเรื่องความสวยงามและโรแมนติกเพื่อไปกระตุ้นอารมณ์

ผ่านไปปีกว่าก็โกอินเตอร์ บริษัทโฟกัสไปที่ชาวไต้หวันแทน จุดขายสำคัญคือความรู้สึกที่แท้จริงของคนที่รักกันปานจะกลืนกิน

ซูจื่ออี้เปิดสคริปและเห็นว่าตัวละครทั้งหมดถูกแทนด้วยABCD
นั่นหมายถึงว่านักแสดงยังไม่ได้ฟิกตัว

ในใจของเขายังคงรู้สึกขัดแย้งนิดๆ
ก็เพราะยังไม่รู้ว่าต้องแย่งชิงรุกหรือรับกันแน่
นอกจากนั้นฝ่ายรับก็ต้องถูกเสียบ ถ้าหากเลือกเป็นฝ่ายรุกได้เขาก็ต้องเสียบใครสักคนสินะ พอคิดว่าชายน้อยของตัวเองจะต้องเข้าไปอยู่ในตัวคนอื่นก็อยากจะยอมแพ้เสียเดี๋ยวนั้น

สคริปมันน่าอายมาก...

เนื้อเรื่องถูกแบ่งเป็นสามพาท
พาทแรกกับพาทสองจะรวมสองคู่
ตอนแรกก็เริ่มแนะนำตัวเองกับอีกฝ่าย
แล้ววันต่อๆไปก็จะมีความสัมพันธ์กันเรื่อยๆเป็นเรื่องเป็นราวจนกระทั่งป้าบกัน
พาทสาม ทั้งสี่คนก็ไปเดทที่ชายหาด
และเล่นวอลเล่บอลกันตอนเย็น
พวกเขาเป็นคนไต้หวันทั้งหมดที่ใส่ชุดยูกาตะถือไฟเย็นคนละสองแท่ง สุดท้ายก็ไปจบกันที่เตียงของแต่ละคู่

ถึงแม้ว่าเขาเริ่มจะเข้าใจตัวละครในสคริปแล้ว ซูจื่ออี้อดจะเซอไพต์นิดหน่อยไม่ได้

ภาพรวมสั้นๆเป็นบทเกริ่นนำของตัวละครเท่านั้น
แต่ละตัวละครมีข้อมูลทั้งหมดคนละสี่หน้า รวมไปถึงพวกอาหารที่ชอบ
เพื่อสร้างตัวละครที่มีความสมจริง
เป็นสิ่งที่ลำบากสำหรับผู้กำกับพอสมควร
ที่จะทำยังไงให้ทั้งสองคู่ได้เจอกัน

AกับBเกลียดกันตั้งแต่แรกเห็น แถมยังจ้องจะจับผิดกันตลอดด้วย แต่เพราะอย่างนั้นเลยเกิดเป็นจุดให้มารักกันเฉย  
ส่วนตัวละครCกับDเจอกันก็ชอบกันเลย

จากรายชื่อของเสี่ยวจี
ซูจื่ออี้ค้นหาในอินเตอร์เน็ตคนที่มาคัดตัวทั้งสามคน แล้วก็เจอคนหนึ่งซึ่งเป็นดาวแดงจริงๆ(ดัง) เขามีประสบการณ์แลกเปลี่ยนที่จีนกับญี่ปุ่น แต่ก็คงไม่รู้เรื่องทัศนคติของคนๆนี้ได้จากรูปภาพหรอก

คนถัดไปดูดีมากๆ เขามีแสดงหนังเกย์มานิดหน่อยคิ้วดกดำ แถมยังเคยเป็นรับ
คนสุดท้ายในรายชื่อใกล้ชิดกับซูจื่ออี้ เรียกว่าอาลี่ เป็นนายแบบแมกกาซีนที่เคยกัดกันตอนเดบิ้ว นอกจากคนสุดท้ายเขาก็ยอมได้หมดนั่นแหล่ะ

ซูจื่ออี้เปิดคอมแล้วใส่แผ่นหนังเรื่องนี้ที่เคยแสดงมาแล้วดู
เพียงแค่ห้านาทีเขาก็รับไม่ได้จนดึงแผ่นออกทันที
เขาไม่สามารถดูผู้ชายพูดเรื่องรักใคร่ใส่กันได้ ทุกๆคำที่สื่อว่ารักต้องใช้การสบตา มันทำให้เขาคิดถึงหมิงปันจนรู้สึกขยะแขยง
ซูจื่ออี้รู้เรื่องปัญหาทางร่างกายของตัวเองแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
เขาไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น ต้องรีบหาทางออกสำหรับความเกลียดชังที่มีต่อหมิง
หรือไม่บางทีเขาอาจจะกลายเป็นคนเลวไปเลย